ความแดดประเทศไทยตอนนี้!!

เอาดี ๆ เปย์เป้นึกว่าตัวเองกำลังอยู่บนดวงอาทิตย์ซะอีก แถมบางวันอากาศกำลังร้อนได้ที่ เอ้า ฝนตกเฉย.. ความสภาพอากาศแปรปรวนแบบนี้ นอกจากพวกเราจะต้องปรับตัวและเตรียมพร้อมรับมือกับความเปลี่ยนแปลงกันแล้ว จะบอกว่านี่ถือว่าเป็น งานหินสำหรับสัตว์เลี้ยง ด้วยเช่นเดียวกัน อันตรายสุดก็คืออากาศร้อนนี่แหละ ขนาดคนก็ว่าร้อนตับแล่บแล้ว ในมุมของสัตว์เลี้ยงเอง เปย์เป้บอกเลยว่าหนักหน่วงไม่แพ้กัน 😅 วันนี้เปย์เป้เลยจะมาไล่เรียงโรคของสัตว์เลี้ยงที่ต้องระวังในช่วงหน้าร้อนนี้ให้ได้อ่านกัน พร้อมวิธีการดูแลเจ้านายสี่ขาของเราให้ห่างไกลโรค ส่วนจะมีโรคอะไร และมีวิธีการดูแลยังไงบ้าง ตามมาอ่านต่อกัน !

 

---

 

 

” อากาศร้อนแบบนี้ คนเองยังกลัวเป็นลม

แล้วทำไมเหล่าน้อน ๆ ถึงจะกลัวบ้างไม่ได้ ? “

 

อากาศร้อนยังทำให้คนเป็นลมได้ มีอย่างที่ไหนที่สัตว์เลี้ยงสี่ขาอย่างน้อน ๆ จะไม่มีโอกาสที่จะได้รับผลกระทบจากอุณหภูมิของอากาศที่ร้อนมว้ากอย่างพวกเรากันล่ะ 🤔  ที่สำคัญ ร่างกายของน้องบอบบาง และมีความเสี่ยงต่อจากเจ็บป่วยมากกว่าคนเราเยอะ (แถมค่ารักษาก็คือสูงไม่ไหว) อย่างเราถ้าเกิดอาการผิดปกติอะไรนิดหน่อย พาราก็คือต้องมาแล้วหนึ่ง แต่อย่างน้อง ๆ เราไม่สามารถล้วงลึกเข้าไปในจิตใจของน้องได้เลยว่าตอนนี้น้องมีอาการผิดปกติอะไรอยู่ บทจะรู้อีกทีอาการก็เริ่มลามจนถึงขั้นหนักซะแล้ว ตอนนั้นแหละเราถึงจะได้รู้กัน

 

ดังนั้นการดูแลน้อง ๆ ในช่วงหน้าร้อนแบบนี้ อันดับแรกเลยคือต้องป้องกันก่อนที่จะรักษา คือต่อให้เรารู้ว่ามันมีโอกาสของการเกิดโรคได้ก็จริง แต่สิ่งแรกที่สำคัญที่สุดที่เราควรจะต้องทำ คือ การลดโอกาสเกิดโรคเหล่านั้นให้ได้ซะก่อน ซึ่งนั่นก็ได้แก่การป้องกัน อย่างช่วงอากาศร้อน ๆ แบบนี้เราจะต้องเตรียมน้ำสะอาดให้น้องไม่ให้ขาด นึกภาพดูสิ ขนาดคนเราขาดน้ำไปแค่แป๊บเดียว ยังรู้สึกกระหายน้ำกันเลย แล้วน้อง ๆ เป็นสัตว์ตัวเล็กกว่าเรามากจะไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลยหรอ ดังนั้นคนเลี้ยงอย่างเราจะต้องเตรียมน้ำสะอาดวางไว้ในมุมที่น้องสามารถเข้าถึงได้ และคอยหมั่นเช็กดูเรื่อย ๆ ถ้าน้ำหมดต้องเปลี่ยน หรือถ้าน้ำสกปรกมีฝุ่นหรืออะไรลงไปก็ให้ทำการทำความสะอาดแล้วเติมน้ำใหม่เข้าไปด่วน 

 

และไม่ควรผูกน้องให้อยู่ในที่แคบและจำกัดมาก ๆ โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีแสงแดดส่องถึงโดยตรง อย่างช่วงหน้าร้อนแบบนี้เห็นทีจะต้อง พักก่อน  เพราะไม่งั้นโอกาสที่น้องจะเป็นลมล้มพับจะมีสูงมากถึงมากที่สุด เราจึงควรให้น้องอยู่ในสถานที่ที่กว้างขวาง เข้าถึงน้ำดื่มได้ และควรจะต้องอยู่ในที่ร่ม ถ้าอากาศร้อนจัดมาก ๆ ควรหาพัดลมตัวเล็ก ๆ ตั้งไว้สักหน่อยก็ดี จะได้ช่วยลดโอกาสเกิดโรคที่ไม่พึงประสงค์ในช่วงหน้าร้อนแบบนี้ไปได้มากเลยทีเดียว 

 

---

 

 

แล้วโรคยอดฮิตในช่วงหน้าร้อนแบบนี้ มีอะไรบ้างล่ะเปย์เป้ ?

 

เปย์เป้เชื่อว่าเพื่อน ๆ ส่วนใหญ่น่าจะเคยได้ยิน หรือเคยอ่านข้อมูลเกี่ยวกับโรคของสัตว์เลี้ยงในช่วงหน้าร้อนนี้กันมาอยู่บ้าง โดยเฉพาะชาวทาสทั้งหลาย แต่จะบอกว่าจริง ๆ แล้วในช่วงหน้าร้อนแบบนี้มีโรคที่ต้องเฝ้าระวังอยู่แค่ไม่กี่โรค นอกจากนั้นก็เป็นโรคที่สามารถเกิดได้ทุกฤดู ไม่ใช่เฉพาะแค่หน้าร้อนอย่างเดียว แต่ถ้าพูดถึงหน้าร้อน โรคของสัตว์เลี้ยงที่ต้องเฝ้าระวังหลัก ๆ เลยก็จะมี

 

| โรคฮีทสโตรก (Heat Stroke) หรือลมแดด ☀️ 

 

นี่ไม่ใช่โรคที่สัตว์เลี้ยงจะต้องระวังอย่างเดียว แต่คนอย่างเราก็ต้องระวังด้วยเช่นกัน บอกเลยว่าในช่วงที่อากาศร้อน – ร้อนมากแบบนี้ โอกาสที่สัตว์เลี้ยงจะเป็นโรคฮีทสโตรกนั้นมีเปอร์เซ็นต์ที่สูงมากกก ความแดดประเทศไทยอะเนอะ 😅  ดังนั้นอาการของโรคนี้หลัก ๆ ที่สังเกตได้ชัดก็คือ อาการหอบ หายใจแรง ร่างกายสูญเสียน้ำได้ง่ายและเร็ว  ถ้าไม่รีบนำน้องมาปรับสภาพร่างกาย หรือระบายความร้อนได้ทัน อาจจะส่งผลถึงขั้นเสียชีวิตได้เลย

 

ดังนั้น วิธีการป้องกันไม่ให้เกิดโรคฮีทสโตรก ก็คือ การพาน้องไปอยู่ในสถานที่ที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก ไม่อึดอัด ไม่แออัด ไม่ขังน้องไว้ในที่แคบ และเผชิญแสงแดดจัง ๆ ที่สำคัญสิ่งที่จำเป็นและสำคัญมาก ๆ กับการระบายความร้อนนั่นก็คือ การดื่มน้ำ ดังนั้นคนเลี้ยงอย่างเราจึงควรเตรียมน้ำดื่มไว้ให้น้อง และหมั่นสังเกตตลอดทั้งวัน ถ้าเลี้ยงแบบปล่อย ก็ควรนำน้ำมาตั้งไว้ในหลาย ๆ จุดในบริเวณบ้าน ถ้าเกิดใครสังเกตได้ว่าน้องไม่กินอาหาร เอาแต่กินน้ำ นั่นถือว่าเป็นเรื่องปกติ เพราะถ้าอากาศร้อนมาก ๆ น้องจะไม่มีความอยากอาหารเกิดขึ้น จะสนใจอย่างเดียวเลยคือน้ำเปล่า

 

หรือถ้าบ้านไหนเจ้านายเริ่มมีอุณหภูมิในร่างกายสูง ก็ให้หาผ้าชุบน้ำเช็ดตัวให้เค้าหน่อย อย่างคนจะมีการระบายเหงื่อออกมาทางผิวหนังได้ แต่อย่างน้องประสิทธิภาพในการขับเหงื่อออกมานั้นสู้คนไม่ได้แน่นอน ดังนั้นถ้ารู้สึกว่าน้องเริ่มร้อน หายใจแรง หอบ ก็ให้รีบจัดแจงพาน้องไปเช็ดตัว ให้ดื่มน้ำ หรือนำเข้าห้องแอร์สักหน่อยก็จะดีมาก

 

---

 

 

| โรคท้องเสีย 😖 

 

จริงอยู่ที่ว่าโรคท้องเสียสามารถเกิดได้ทุกสภาพอากาศไม่ใช่แค่หน้าร้อนอย่างเดียว แต่อากาศร้อน ๆ แบบนี้โอกาสของการเกิดโรคท้องเสียนั้น พบได้สูงกว่าสภาพอากาศอื่น ๆ  เพราะอากาศร้อนทำให้อาหารเสียง่าย ในกรณีที่เจ้าของอย่างเราให้อาหารในรูปแบบเปียก หรืออื่น ๆ ที่นอกเหนือจากอาหารเม็ด ถ้าปล่อยทิ้งไว้นานโดยที่ไม่ดูแล น้องอาจจะเผลอกินอาหารที่บูด หรือเสียเข้าไป และถ้าเกิดอาการของโรคท้องเสียขึ้นมาก็จะทำให้น้องถ่ายท้องออกมาบ่อย แถมยังสูญเสียน้ำไปในตัว

 

นอกจากอาหารบูดแล้ว การปนเปื้อนในน้ำดื่มก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้อาการของโรคท้องเสียเกิดขึ้นได้เช่นเดียวกัน ดังนั้นคนเลี้ยงอย่างเราควรที่จะต้องหมั่นเช็กอาหาร และน้ำดื่มของน้องบ่อย ๆ ทำความสะอาดชามน้ำดื่มน้องวันละครั้งก็จะเป็นการดีมาก ส่วนชามอาหารทำความสะอาดหลังจากน้องกินเสร็จทันทีจะเป็นการดีที่สุด เพราะจะได้ลดโอกาสของการเกิดโรคท้องเสียได้ไปในตัว 

 

---

 

| โรคเห็บ – หมัดบุก ! 🐾 

 

เห็บ-หมัดชอบนักกับอากาศร้อน ๆ  บอกเลยว่าอากาศร้อน ๆ แบบนี้นี่แหละที่อัตราการเติบโตของเจ้าเห็บรวมถึงหมัดนั้นมีเปอร์เซ็นต์ที่สูงมาก ดังนั้นถ้าไม่อยากให้น้อน ๆ เจอเห็บหมัดมากวนใจ เวลาพาออกไปเที่ยวไหน กลับบ้านมาแล้วอย่าลืมพาไปอาบน้ำ แปรงขน หรือพาไปฉีดวัคซีนกันเห็บหมัดไว้ก่อนเนิ่น ๆ

 

อย่างบางคนพอเข้าสู่หน้าร้อนปุ๊บก็พาน้อง ๆ ไปตัดขนให้สั้นไปเลย นอกจากจะช่วยลดโอกาสการหมักหมมของเห็บหมัดแล้ว ยังช่วยทำให้น้องสบายตัวขึ้นด้วย เพราะถ้าเกิดเห็บหมัดสุมอยู่ในตัวของน้องมากจนเกินไป อาจจะเสี่ยงต่อการเป็นโรคพยาธิเม็ดเลือด รวมถึงโรคโลหิตจางได้นะ ดังนั้นเจ้าทาสทั้งหลายรีบพาเจ้านายไปฉีดยากันเห็บเดี๋ยวเน้ ! 😂 

 

---

 

 

| โรคอื่น ๆ ที่คนส่วนใหญ่มักเข้าใจผิดว่าเกิดเฉพาะหน้าร้อน แต่จริง ๆ แล้วสามารถเกิดได้ทุกฤดู 🌂 

 

โรคนั้นก็ได้แก่ โรคพิษสุนัขบ้านั่นเองจ้า  จริง ๆ แล้วโรคพิษสุนัขบ้าสามารถพบได้ในทุกฤดู และโอกาสเสี่ยงก็คือมีเท่ากัน ไม่ใช่ว่าจะเกิดหนักในช่วงอากาศร้อนอย่างเดียว แต่คนส่วนใหญ่มักจะติดภาพกันไปว่า โรคนี้จะพบได้ในช่วงหน้าร้อนเท่านั้น คำตอบคือไม่ใช่เด้อ แต่สาเหตุที่ทำให้คนส่วนใหญ่เข้าใจผิดกันก็เพราะว่า ในช่วงหน้าร้อนสัตว์เลี้ยงก็มักจะมีอากาศหอบ อย่างบางสายพันธุ์หอบไม่เท่าไหร่นะ แต่ยังรวมถึงอาการน้ำลายไหล น้ำลายย้อยออกมา ซึ่งตรงกับลักษณะอาการของโรคพิษสุนัขบ้าเป๊ะ และที่สำคัญโรคนี้ไม่ได้ติดกันเฉพาะในหมู่สุนัขอย่างเดียว แต่สัตว์ชนิดอื่น ๆ (รวมถึงคน) ก็สามารถติดโรคนี้ได้เช่นเดียวกัน

 

ดังนั้น วิธีการป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า นี้ก็คือ การพาสัตว์เลี้ยงของเราไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ หลีกเลี่ยงการพาสัตว์เลี้ยง หรือพาตัวเองไปในพื้นที่ที่เสี่ยงต่อการระบาด รวมถึงใครที่เลี้ยงสัตว์เล็กประเภทหนู หรือกระต่าย (ที่ไม่สามารถฉีดวัคซีนได้) ก็ให้สัตว์เลี้ยงของตัวเองอยู่ห่างจากสัตว์เหล่านั้นไว้ จะได้เป็นการป้องกัน และลดโอกาสเสี่ยงไปในตัว

 

---

 

 

ข้อควรระวังอื่น ๆ เกี่ยวกับการดูแลสัตว์เลี้ยงในช่วงหน้าร้อน ☀️ 

 

• ระวังสัตว์เลี้ยงของเราขาดน้ำ หรือไม่ได้รับน้ำที่เพียงพอต่อร่างกาย : ในช่วงอากาศร้อน ๆ สัตว์เลี้ยงจะต้องการน้ำมากกว่าปกติ ดังนั้นเจ้าของควรเตรียมน้ำให้เพียงพอ หมั่นเปลี่ยนน้ำ และทำความสะอาดชามน้ำบ่อย ๆ จะได้ป้องกันไม่ให้เกิดโรคท้องเสียด้วย
• ควรหาที่ร่ม และมีอากาศถ่ายเทให้น้องอยู่ : อย่าให้แสงแดดส่องถึงบริเวณที่น้องอยู่แบบจัง ๆ หรือกักขังน้องไว้ในพื้นที่แคบ ๆ หรือถ้าใครสามารถหาพัดลมระบายอากาศตัวเล็ก ๆ หรือพาน้องเข้าห้องแอร์ได้ก็จะเป็นการดีมาก
• อย่าปล่อยน้องทิ้งไว้ในรถ และเปิดกระจกทิ้งไว้นิดเดียว : เพราะนั่นจะทำให้น้องอึดอัด หายใจไม่สะดวก จนสุดท้ายอาจจะเป็นสาเหตุทำให้น้องหมดสติลงได้
• ถ้าเกิดอะไรขึ้นมา อย่าให้ยาคนกับสัตว์เลี้ยงโดยที่ไม่ปรึกษาสัตวแพทย์ก่อน : เพราะยาของคนบางตัวก็แรงเกินไป ไม่สามารถใช้กับสัตว์ได้ ดังนั้นถ้าเป็นอะไรขึ้นมาให้รีบพาน้องไปโรงพยาบาล ดีกว่ามานั่งหายาคนให้น้องกินแบบที่เราไม่ได้มีความรู้ หรือความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับยาตัวนั้น ๆ ก่อน

 

---

 

💭 จะเห็นได้ว่าจริง ๆ แล้วโรคของสัตว์เลี้ยงที่ชาวทาสอย่างเราต้องระวัง ไม่ใช่ว่าต้องระวังเฉพาะแค่ช่วงหน้าร้อนอย่างเดียว แต่ชาวทาสหลายคนมักจะเข้าใจผิดว่าบางโรค เป็นโรคที่เกิดขึ้นเฉพาะในหน้าร้อนเท่านั้น (ซึ่งจริง ๆ แล้วไม่ใช่) ดังนั้น การดูแลเจ้านายสี่ขาของเราไม่ควรดูแลเฉพาะช่วงใดช่วงหนึ่งอย่างเดียว  แต่เราควรจะต้องหมั่นสังเกตและเฝ้าระวังน้อง ๆ ในทุก ๆ วัน เพราะน้องมีภูมิต้านทานที่ต่ำกว่าคนมาก เจออะไรผิดปกตินิด ๆ หน่อย ๆ ก็สามารถเจ็บป่วยได้ ดังนั้นชาวทาสทั้งหลายอย่าชะล่าใจโดยเด็ดขาด

 

อย่างในช่วงหน้าร้อนแบบนี้ ก็หมั่นดูแลรักษาความสะอาด และเปลี่ยนน้ำสะอาดให้น้องกันบ่อย ๆ ถ้ารู้สึกว่าตัวของน้องร้อนมาก ร้อนแบบไม่ไหว 😵  ก็ให้พาน้องไปเช็ดตัว หรือใครจะพาเข้าห้องแอร์สักชั่วโมง – สองชั่วโมงก็ยังดี น้องจะได้ปรับสภาพอุณหภูมิในร่างกายให้กลับคืนสู่สภาวะปกติ ลดโอกาสเกิดโรคลมแดด และช็อกหมดสติได้ 😙 

 

ขอบคุณแหล่งข้อมูลจาก : ชัวร์ก่อนแชร์ และ petkeen